วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บล็อกหนังสือ เพื่อความสำเร็จ

สองวันก่อนได้มีโอกาสซื้อหนังสือมาอีกเล่มนึง ชื่อหนทางแห่งความสำเร็จ (The Way to Success) หลังจากที่ไม่ได้ซื้อหนังสืออ่านมาเดือนกว่าๆ เพราะงานยุ่งมาก ปกติตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะอ่านหนังสืออย่างน้อยเดือนละ 1 เล่ม ตั้งแต่ปี 46 ที่เริ่มซื้อหนังสืออ่านเป็นเล่มแรก ตอนนี้มีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด ประวัติบุคคล ธุรกิจ การบริหาร การฝึกจิตใจ และอื่นๆ แล้ว มากกว่า 70 เล่ม อันที่จริงไม่ได้เน้นปริมาณ แต่ว่าต้องการอ่านให้ได้ความรู้มากที่สุด เพราะการอ่านหนังสือเป็นวิธีการเรียนรู้แบบลัดที่สุด พอมีหนังสือมากขึ้น มีความรู้มากขึ้น เลยตั้งใจว่าจะทำบล็อกขึ้นมาเพื่อรวบรวมหนังสือที่ได้อ่าน รวมถึงสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับหนังสือนั้นๆ เพื่อเตือนความจำ แล้วจะทยอยเพิ่มหนังสือเข้าไปเรื่อยๆ ให้ครบโดยเร็วที่สุด นี่คือเป้าหมายที่ตั้งไว้

คลิกที่นี่เพื่อเข้าสู่บล็อกหนังสือ เพื่อความสำเร็จ

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เมื่อแบตฯ มันหมด

หลังจากที่ได้ตรากตรำทำงานหนักมาเกือบสามสัปดาห์ รู้สึกล้ายังไงบอกไม่ถูก เลยตัดสินใจลาพักร้อนพักผ่อนเอาแรงซักสองสามวัน เพื่อชาร์จแบตฯ เพิ่มพลังให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้มีแรงคิด แรงทำงานเหมือนเดิม ตอนนี้คงได้เวลาเริ่มทำตามฝันหลายๆ อย่าง ทั้งธุรกิจ ครอบครัว ถึงแรงจะน้อยแต่ก็ยังไม่ลืมสิ่งที่ฝัน สู้เหมือนเดิมนะเรา สู้เหมือนตอนที่เริ่มฝันใหม่ๆ อย่าหยุดนะ เสก....


วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วงษ์พาณิชย์ ภาค3 (Step 1 เพิ่มทักษะด้านคน และการพูด)

หลังจากที่ได้ศึกษาภาพรวมคร่าวๆ เกี่ยวกับธุรกิจขยะรีไซเคิลมาพอสมควร สิ่งที่ต้องทำต่อไปจากที่ได้ทำการวางแผนเรียบร้อยแล้ว ประการ แรกคือ ศึกษา และเพิ่มทักษะเกี่ยวกับคน การดูคน การควบคุมคน การใช้คน การบริหารคน ความจริงเรื่องคนนี่ต้องทำการศึกษาไปเรื่อยๆ แต่ว่าอย่างน้อยเราก็พอมีความรู้อยู่บ้าง อีกส่วนหนึ่งก็คือการพูด ต้องพูดให้มีประสิทธิภาพ น้ำหนักเสียง หน้าตา ท่าทาง ฯลฯ เอาใจช่วยด้วยนะ(ทุกคนที่เกี่ยวข้อง) ขอบคุณ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วงษ์พาณิชย์ ภาค3 (เมื่อต้องศึกษาเพื่อความมั่นใจ)

หลังจากที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจรีไซเคิลขยะ มาได้ซักพักนึงแล้ว จากเว็บไซต์ วิดีโอคลิป ฯลฯ จึงได้ทราบว่าโอกาสของธุรกิจนี้ดีมากเลยทีเดียว เช่น ต้นทุนไม่สูง ราคาขยะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการอบรมให้ความรู้อยู่ตลอดเวลา ความเสี่ยงน้อย เป็นธุรกิจเงินสด ฯลฯ แต่หลายสิ่งที่เราต้องศึกษาต่อไป ยังมีอีกมาก เช่น การจดทะเบียนทำธุรกิจ การออกแบบก่อสร้างโรงงาน สถานที่ตั้ง การคัดหาคนงาน การควบคุมดูแลคนงาน การบริหารโรงงาน ช่องทางในการขยายกิจการ และอื่นๆ ปรีกย่อยอีกมากมาย เลยมานั่งคิดเรื่องเป้าหมายในการเรียนรู้ เป็นขั้นเป็นตอน ในช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือน สิ่งที่กำลังเรียนรู้อยู่ในตอนนี้คือ


  • ศึกษาแนวคิดของผู้บริหาร วงษ์พาณิชย์ คุณสมไทย วงษ์เจริญ

  • ปรเภทขยะ แบบแยกย่อย นอกจาก 5 ประเภทหลักๆ

  • ความเคลื่อนไหวของวงษ์พาณิชย์ เช่น การอบรม กิจกรรม รายการโทรทัศน์ หรือสารคดี

  • โอกาศทางธุรกิจ เช่น ช่องทางในการเริ่ม การขยาย และโอกาสอื่นๆ

  • ต้นทุนในการประกอบกิจการ เช่น ค่าเช่าที่ ค่าก่อสร้างโรงงาน ค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ

  • ศึกษาแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ การบริหารงาน การป้องกันตัว แนวทางการเสียภาษี

  • ศึกษาข้อมูล ด้านการจดทะเบียนธุรกิจ การจดทะเบียนค้าของเก่า การเสียภาษี "สังคมรังเกียจ" การบริหารคน บริหารโรงงาน

  • ศึกษาข้อมูลการประกอบธุรกิจ จากเจ้าของกิจการวงษ์พาณิชย์ ในพื้นที่ต่างๆ

  • ศึกษากลโกงต่างๆ เช่น การโกงของคนเก็บของเก่ารายย่อย ซาเล้ง หรือผู้คนต่างๆ นำขยะมาขาย

  • การบริหารงาน ความเสี่ยงในด้านต่างๆ

นี่คือสิ่งที่เราจะต้องศึกษาในระยะเวลาอีกไม่กี่เดือนนี้

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

แนวคิด ภาค 3 (เมื่อไม่อยากเดินตามทาง)

เมื่อเกิดมาตั้งแต่จำความได้ เราได้ผ่านการปลูกฝังจากญาติพี่น้องหรือสังคมว่า เกิดมาแล้วต้องเรียนสูงๆ จากนั้นแล้วต้องทำงานประจำ หรือราชการจะได้มั่นคง เกษียรตอนอายุ 60 ถามว่านี่คือคำตอบของชีวิตหรือไม่ ใครเป็นคนกำหนดว่าเราเกิดมาชีวิตหนึ่งต้องเดิมตามทางนี้ไปตลอด ผมพยายามหาคำตอบมานานถึงได้เข้าใจว่า ไม่มีใครเป็นคนกำหนดหรอก แค่เราเห็นญาติพี่น้องของเราเดินตามทางนี้มาตลอด เช่นกัน ผมอยู่ในครอบครัวข้าราชการ จึงได้รับการปลูกฝังแนวคิดความมั่นคงนี้อย่างหนักหน่วง แต่ในใจของเราก็คิดมาตลอดว่ามันใช่หรือ? นี่คือชีวิตที่เราต้องการหรือ? เราต้องการความมั่นคง ค่าตอบแทนต่ำ ทำงานถึงอายุ 60 มันใช่ความต้องการของเราจริงๆ หรือ? ผมเห็นตัวอย่างจากพ่อ ทำงานได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท เลี้ยงลูก 3 คน ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ ต้องใช้เงินอย่างประหยัด แต่พอพ่อจบชีวิตลง กลับไม่มีอะไรเหลือให้กับลูกเลย นี่หรือความมั่นคง มั่นคงจริงๆ หรือเปล่า ผมชอบใช้คำว่า "จนมั่นคง นะสิ" ผมได้บทเรียนจากอาชีพข้าราชการของพ่อมากมาย อาชีพข้าราชการสอนให้ผมเข้าใจคำว่าอาชีพ ความมั่นคง ความอดทน ความประหยัด ความคิดที่จะใช้จ่ายเงิน นี่คือความคิดที่ได้ แต่พอเรียนจบก็มานั่งคิดกับตัวเอง ได้พบกับผู้คน แนวคิดมากมาย ไม่ว่าจากหนังสือ จากข้างนอกกระจกรถ ร้านค้า ผู้คนข้างถนน ฯลฯ จนได้พบคำตอบที่แท้จริงว่าชีวิตเราต้องการอะไร ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมค้นพบ จากที่ได้คุ่นคิดมามากมาย หลายตลบ ว่าสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดในชีวิต คือ ความสุข แล้วที่มาของความสุขของผมก็คือ ครอบครัว รายได้(คำว่ารายได้ของผมไม่ได้ต้องการเป็นคนที่รวยที่สุด มั่งคั่งที่สุด แต่มันคือ รายได้ที่สามารถช่วยให้ครอบครัวไม่ลำบาก อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากใช้จ่ายอะไรก็ได้ใช้ ได้ท่องเที่ยว ได้ส่งลูกเรียนเท่าที่เค้าอยากจะเรียน ฯลฯ) อาชีพที่รัก แล้วไม่ต้องมีคนมากำหนดกฏเกณฑ์ว่าคุณจะต้องทำแบบนู้น ทำแบบนี้ แน่นอนต้องไม่ใช่ข้าราชการนั่นเอง ผมจะต้องเกษียรในอายุ 40 - 45 ปี แน่นอนมันไม่ใช่สิ่งที่คนปกติ 95% ทำกัน มันเป็นเรื่องยาก แต่อย่าลืมว่ามีคนอีก 5% ทำได้ คนเหล่านั้นต้องเหนื่อย และเสี่ยงกว่าคนปกติในการทำตามเป้าหมาย แต่ผลลัพธ์นั้นยิ่งใหญ่กว่ามาก นี่คือสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ผมมีเป้าหมายชัดเจน และไม่เคยหยุดที่จะคิดใหม่ ไม่เคยที่จะไม่ซื่อสัตย์กับเป้าหมายของตัวเองแม้แต่วินาทีเดียว เพราะนั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้ผมมีความสุขในไม่ช้านี้ อย่างที่บอกมีคน 95 คนจาก 100 เดินตามทางที่มีคนขีดไว้ให้ แต่ผมจะเป็น 1 ใน 5 คนที่เหลือที่จะไม่เดินตามทาง แต่อย่าลืมว่ามีคนที่เคยเดินไปแล้ว ประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวเยอะแยะมากมาย นั่นคือประสบการณ์ที่ผมจะนำมาใช้ในการเดินทาง มันอาจจะไกล หรืออาจจะลำบาก แต่แน่นอนที่สุดจุดหมายมันคือความสุข แล้วความสุขนี่เองที่ทำให้ผมต้องหาความรู้ ต้องหัดคิด หัดตัดสินใจ ฯลฯ ในโลกนี้มีคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย ผู้คนเหล่านั้นชอบใช้คำว่า "ล้มเหลว" แต่ผมกลับคิดว่าไม่มีคำว่าล้มเหลวหรอกในโลกนี้ มีแต่คำว่า "ล้มเลิก" เท่านั้นเอง

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551

วงษ์พาณิชย์ ภาค2 (เมื่อผู้คนสนใจมากขึ้น)

หลังจากที่เข้าไปดูเว็บไซต์ วงษ์พาณิชย์ เกี่ยวกับการอบรมการคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลเชิงธุรกิจ รุ่นที่ 37 รู้สึกตกใจ เอทำไมคนเข้าอบรมถึงเยอะแบบนี้ แสดงว่าคนทั่วไปเริ่มให้ความสนใจกับธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น เลยเริ่มรู้สึกว่า เป้าหมายเราก็ชัดเจนในเรื่องการทำธุรกิจคัดแยกขยะ แล้วเราจะเข้ารับการอบรมในช่วงใหนดีล่ะ ตอนนี้ก็มีภาระอยู่พอสมควร แต่ถ้านานกว่านี้ก็คงเสียเวลามากเกินไป เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลาช่วงนี้ ก็ต้องศึกษาเอาเองก่อนแล้วกัน ศึกษายังไงล่ะนอกจาก ดูการคัดแยก คุยกับเจ้าของธุรกิจ อ่านหนังสือ ยังมีวิธีอื่นอีกมั้ยน้า เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ภาพประทับใจ วิกฤติการเมืองไทย ปี 51



ข้อความโดย เสก...

ภาพบรรยากาศ ระหว่างท่านนายกฯสมัคร กับท่านหัวหน้าฝ่านค้าน ทักทายกันที่หน้าร้านข้าวรัฐสภา ก่อนการลงมิติไม่ไว้วางใจรัฐบาล หลังจากที่ได้อภิปรายกันมา เกือบ 36 ชั่วโมง ผมพอจะได้มีโอกาสดูบ้าง เฉพาะเรื่องที่สำคัญๆ เช่น เขาพระวิหาร เศรษฐกิจ และการรุกล้ำที่ดินของรัฐ ดุเด็ดเผ็ดมันมากเลยทีเดียว ซึ่งคู่นี้ก็ถือว่าเป็นคู่เอกคู่หนึ่ง อาจจะดูเหมือนมวยคนละรุ่น สู้กันไม่ได้ แต่ไม่ใช่เลย ท่านผู้นำฝ่ายค้าน ถึงจะอายุน้อยกว่า ลุงหมักหลายสิบปี แต่ชั้นเชิงในด้านการอภิปรายถือว่าไม่แพ้ใครเหมือนกัน โดยเฉพาะข้อมูลที่หนักแน่น และลีลาในการอภิปราย แต่ที่น่าประหลาดใจคือ ในช่วงการอภิปรายลุงหมักได้ต่อว่าคุณอภิสิทธิ์ว่า "กระเหี้ยนกระหือรือ อยากเป็นนายกฯ" แค่สี่เดือนก็ขอเปิดอภิปรายแล้ว แต่นี่ยังไม่ใช่สถิติ อันที่จริงตอนสมัยนายกฯชวน แค่สามเดือนก็ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ตอนนั้นหมวดเหลิมเป็นผู้จุดประเด็น แต่หลังจากที่ได้อภิปรายเสร็จสิ้น กลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าจะเพิ่งผ่านการถกเถียงอย่างรุนแรง เพียงไม่กี่ชั่วโมง กลับดูสนิทสนมกันพอดู ระหว่างลุงหมัก กับหลานอภิสิทธิ์ ภาพนี้เป็นภาพที่ผมอยากเห็นมาก แล้วสุดท้ายก็ได้เห็นจริงๆ อยากให้ภาพนี้เกิดกับกลุ่มการเมืองอื่น ครอบครัว เพื่อนร่วมงานที่ความคิดเห็นอาจไม่ตรงกัน ไม่อยากให้นำมาเป็นเรื่องถกเถียง ถึงขั้นทะเลาะกัน จนเกิดความเสียหายล้มตายไป คนเราคิดต่างกันได้เป็นเรื่องปกติ แต่อย่านำความคิดนั้นมาเป็นเหตุผลในการเอาชนะ คะคานกัน เพราะต่างคนก็เชื่อความคิดของตนเองเป็นใหญ่ ผมไม่อยากเห็นข่าว พ่อทะเลาะกับลูก เพื่อนทะเลาะกันเอง พี่ฆ่าน้อง ฯลฯ เพียงเพราะ คนไม่กี่คนในจอทีวี ที่เรายังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเหล่านั้นด้วยซ้ำ.....

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เมื่อพี่ผมตกเป็นจำเลย (ซวยว่ะ)

หลังจากประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ศึกษาดูงานจากนครสวรรค์ ว่ามีระบบอะไรบ้างที่จะโชว์ พอประชุมกันเสร็จเรียบร้อย สรุปว่ามีงานอยู่ 2 งานใหญ่ๆ และ ผอ. ได้แจกจ่ายงานให้ผู้รับผิดชอบ พี่ผมดูแลเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการเข้าใช้คอมฯ ส่วนอีกทีมนึงดูแลเรื่องระบบตรวจสอบสิทธิ์ เช้ามาผอ. มาแต่เช้าเข้าไปเช็คที่เครื่อง พบว่ามีแต่ระบบเข้าใช้คอมฯ แต่ไม่มีระบบตรวจสอบสิทธิ์ ผอ.เดินมาถามพี่ที่ดูแลเครื่อง ซึ่งในที่นี้ผมเรียกว่า "จำเลย" แล้วพูดว่าใครสั่งให้คุณลงระบบเข้าใช้คอมฯ ผมให้ติดตั้งระบบตรวจสอบสิทธิ์อย่างเดียว (การติดตั้งแค่เปลี่ยนสายแลน ไปใช้อีกวงนึงแค่นั้นเอง) ผมเลยเถียงแทนว่า เมื่อวานที่ประชุมกัน ผอ.บอกให้ติดตั้งระบบเข้าใช้คอมฯ ด้วย ผอ.กลับบอกว่าเค้าจะมาดูระบบตรวจสอบสิทธิ์ ไม่ได้มาดูระบบเข้าใช้คอมฯ ผมเลยบอกว่าประชุมกันไว้แบบนั้นจริงๆ แต่ ผอ.ก็ด่าจำเลยซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับระบบตรวจสอบสิทธิ์แม้แต่น้อย บอกว่าคุณไปแก้ไข ดีกว่ามายืนแก้ตัวนะ (อันที่จริงมันมีน้ำเสียง ท่าทาง ที่ทำให้คนโดนด่า ถึงกับหน้าชา มือสั่น สั่นสู้นะ) แล้วก็เดินจากไป พอลับหลังผม ก็อธิบายให้กับพนักงานทุกคนทราบ เพื่อให้เครียร์จะได้ไม่เข้าใจผิด คนที่น่าจะโดนด่าในเรื่องนี้คือทีมงานระบบตรวจสอบสิทธิ์ต่างหาก ผมละเคืองแทน เถียงแล้วก็ไม่ฟัง หลังจากนี้ต่อไปผมคงต้องคุยกับ ผอ. ตรงๆ เพื่อให้ ผอ. ได้เข้าใจว่าเรื่องนี้มันไม่ถูก และทำให้จำเลยของผม เสียกำลังใจมาก เพราะผมก็เคยเหมือนกัน แต่จะได้ผลอย่างไร ผมไม่อาจทราบได้ ผมอาจจะเจ็บตัวเอง ก็ได้ แต่ไม่ต้องห่วงเจ็บในเรื่องที่ถูกไม่เป็นไร....

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

แนวคิด ภาค 2 (ความเสี่ยงที่สุด คือการที่เราไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย)


มีคนถามผมว่า เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อ ผมตอบไปว่าทำธุรกิจ เค้าบอกว่าไม่กลัวเจ๊งเหรอ ผมตอบกลับไปว่า กลัว ใครๆ ก็กลัวทั้งนั้นแหล่ะ เค้าบอกเสี่ยงน้าทำธุรกิจ ทำสิบ สำเร็จสอง ผมเลยตอบว่า ผมนี่แหล่ะจะเป็นสองคนนั้น เค้าหัวเราะ หึหึ ผมนึกในใจว่า "พี่นั่นแหละแค่คิดก็เจ๊งแล้ววว" อย่างที่บอก ทำธุรกิจมีโอกาสเสี่ยงสูง แต่มีคนเคยบอกไว้ว่า ความเสี่ยงที่สุด คือการที่เราไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย คำนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอ ไม่มีนักธุรกิจที่ประสบความเร็จคนใหนที่คิดว่า ทำแล้วจะเจ๊งมั้ย มีแต่คิดว่า เราจะทำยังไงไม่ให้เจ๊ง อย่างที่บอก ผมกลัวเจ๊ง แต่ผมมีครูในหนังสือเยอะแยะ มากมาย เค้าบอกไว้หมดว่า ควรคิดอย่างไร ทำอย่างไร ไม่ให้เจ๊ง เราไม่ต้องเสี่ยงเอง ในโลกนี้มีคนเคยเสี่ยงมาเยอะแยะ และมาเล่าวิธีจัดการกับความเสี่ยงนั้นให้เราฟังมากมาย ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ผมอ่านหนังสือเกือบร้อยเล่ม ดู ฟัง วีดีโอ เกือบทุกวัน ผมเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ผมจึงมั่นใจ ไม่ได้มั่นใจในตัวเองนะ แต่มั่นใจว่ายังไงเราก็มีครู มีตัวอย่าง เราคงไม่โง่เสี่ยงโดยที่ไม่มีความรู้ ฉะนั้นผมไม่กลัวที่จะเสี่ยง เพราะผมคิดว่ายังไงมันก็ไม่เสี่ยง คนที่บอกว่าเสี่ยง คือคนที่ไม่เคยคิดจะเสี่ยงอะไรเลยต่างหาก ....

วงษ์พาณิชย์ ภาค1 (จุดเริ่มต้น)


หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ วงษ์พาณิชย์ ขยะรีไซเคิลมาบ้าง เหมือนกัน ผมรู้จักวงษ์พาณิชย์ได้สิบกว่าปีแล้วมั้ง เคยเอาเศษเหล็กไปขายได้ตังค์ ค่าขนม แต่ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจตรงใหน จนวันนึงเมื่อซัก ห้าเดือนที่แล้ว จอดรถติดไฟแดงอยู่ นั่งคิดเรื่อยเปื่อยว่าจะเริ่มธุรกิจอะไรดี (ทั้งร้านเน็ต คาร์แคร์ ร้านกาแฟ บริษัทรับเขียนโปรแกรม) คิดไปก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน จนซักพักมีรถวงษ์พาณิชย์ ขับผ่านหน้าไป เห็นสโลแกน ข้างรถเขียนว่า ขยะคือทองคำ เห็นแล้วปิ้งขึ้นมาทันที อ่ะ ธุรกิจนี้น่าสนใจ จึงเริ่มศึกษา แล้วพบว่า แฟรนไชส์ไม่แพง ไม่ต้องคุมคุณภาพสินค้า ไม่ต้องกลัวของเสีย ไม่ต้องดูแลลูกค้ามากมาย กำไรดี ไม่ต้องหาความต้องการ ที่สำคัญขยะ ไม่มีวันขาดตลาด เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด นี่แหละธุรกิจแห่งการเริ่มต้นชีวิต จากนั้นก็มีคำถามต่อมาอีกมากมาย ว่าเราจะเริ่มธุรกิจนี้ได้อย่างไร

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551

CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่


บังเอิญได้ดู หนังเรื่อง CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่ รู้สึกชอบเรื่องนี้มาก สนุกดี ปกติไม่ค่อยชอบดูหนังการ์ตูน แต่เผอิญเรื่องนี้ มีโจซิงฉือแสดงด้วย ก็เลยนึ่งดูจนจบ เรื่องนี้มีทั้งความสนุก ซึ้ง และแง่คิดต่างๆ มากมาย และที่สำคัญตัวเอกของเรื่อง CJ7 น่ารักมาก เป็น Animation ที่มีอารมณ์ ความรู้สึก เหมือนจริงมาก ถ้ามีโอกาส อยากดูอีกซักรอบ

CJ7 ของผม ที่รักเอามาฝาก

ตัวอย่างหนัง
ลิงค์เพิ่มเติม

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ว่าด้วยฮวงจุ้ย ภาค 2 (ผีเซี๊ย)


ผีเซี๊ย เป็นสัตว์มงคลชั้นสูงของจีนที่เชื่อกันว่าสามารถดูดทรัพย์ หรือโชคลาภต่างๆ ได้ ปากชอบกินแต่ของดี ก้นไม่มีรูทวารกินมาแล้วเก็บไว้ไม่มีการถ่ายออก หัวจะเป็นมังกร เขาเป็นกิเลน ขาเป็นสิงโต ปีกเป็นหงส์ ตัวและหางเป็นม้า นิยมใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาทำการแกะหรือหล่อ ของแท้ต้องที่เชี่ยงไฮ้ชัวร์สุด ผมไปซื้อมาแล้ว 1 ตัว แต่แตกไปละ คาดว่าอีก ปีสองปีจะแวะไปซื้อใหม่ เชื่อกันว่าผู้ที่ทำธุรกิจควรมีไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ผีเซี๊ยมีนิสัยสี่อย่างที่ผมชอบมากคือ 1.ปากกินโชคลาภ 2.ก้นไม่มีรูทวาร 3.คบแต่สัตว์ชั้นสูง 4.กลับบ้านทุกวัน ซึ่งสี่นิสัยนี้เชื่อกันว่าเป็นปรัญญาของเศรษฐี หากจะเลือกซื้ผีเซี๊ยมาบูชาจะต้อง ดูด้วยว่าเราอยู่ในธาตุใหน ควรซื้อสีอะไร และหันผีเซี๊ยไปในทิศทางใหน เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้ผลทางความเชื่อ
อย่าลืมนะ ถ้าซื้อมาแล้วหากไม่ขยันทำงาน มัวแต่นั่งมองผีเซี๊ยทั้งวัน มันก็คงไม่มีทางเป็นเศรษฐีได้หรอกชาตินี้

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ว่าด้วยฮวงจุ้ย ภาค 1 (เกริ่นนำ)


ฮวงจุ้ย เป็นศิลปะโบราณอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมาก หลังจากได้ยิมคำล่ำลือเกี่ยวกับฮวงจุ้ยมานาน และเมื่อได้ดูรายการฮวงจุ้ยหมายเลข 8 รู้สึกสนุกมาก จึงหันมาศึกษาอย่างจริงจัง และได้พบว่าฮวงจุ้ยเป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อและเหตุผลอย่างลงตัวและน่าทึ่งมาก ว่างๆ จะมาเล่าใฟ้ฟังว่าฮวงจุ้ยมันน่าทึ่งยังไง.....

แนวคิด ภาค 1 (Imposible is nothing.)

คุณต้องมีความฝันอันยิ่งใหญ่ ถ้าคุณต้องการจะทำ "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้" ให้เป็นจริง

ข้อความนี้ตรงใจมาก เนื่องจากเราไม่ได้มีฐานะที่ร่ำรวย เรียกได้ว่าปานกลางค่อนข้าง...ด้วยซ้ำ ฉะนั้นหากเราต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ สิ่งจำเป็นที่เราต้องมีเป็นอันดับแรก คือความฝัน วันนี้เราพบแล้วว่าความฝันของเราคืออะไร ต้องการอะไร มีคนเคยบอกว่าเราต้องฝันแบบเห็นภาพที่ชัดเจน มันถึงจะเป็นจริงได้ วันนี้ผมเห็นแล้ว และผมจะทำให้มันเป็นจริงในอีกไม่ช้า คอยดู

นี่คือความฝันของผม

จบแล้วนะพ่อ


และแล้วก็จบจนได้ เห็นมะบอกแล้วถ้าไม่คิดฝืนตัวเองในวันนั้น ก็คงไม่มีวันนี้ (รอเก็บตังค์เรียนก็คงเหงือกแห้งกันพอดี) แม้ว่าจะผ่านแบบไม่ราบรื่นนัก แต่ก็สะใจที่ผ่านมันมาได้ ขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ และแล้วก็ถึงวันที่ จะสานฝันต่อซะที (ทำได้แล้วนะพ่อ)


วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2551

เหลืออีก 5 คืบ

อีกห้าคืบก็จะจบแล้ว แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นไร คนเยอะเรื่องแยะ แต่เดี๋ยวก็ผ่านไปได้เหมือนเดิม แน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ขอบคุณ ป่า ป้า หม่า ม้า มากครับ

แล้ว ค่าเทอมเทอมสุดท้ายก็ผ่านพ้นไป

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

จังหวะชีวิต


ถ้าไม่เกิดขึ้นเลยสักครั้ง ถ้าไม่เคยได้เสียใจบ้างเลยซักครั้งก็คงบอกว่าไม่มีวัน บอกว่าทุก ๆ วันที่เดิน จะไม่เสียท่าให้ชีวิตมีขึ้นลง ฉันไม่ถอดใจ แม้มันจะระดับไหน รับมันได้ทุกทาง มาเลยเข้ามา ถ้าเป็นคนไม่เคยพลาดพลั้ง ถ้าไม่เคยได้เสียใจ ทุกอย่างสมหวังนั้นก็คงจะไม่มีวัน ทำให้ทุก ๆ ทางที่เดิน ได้เรียนรู้ว่าว่าชีวิตมีขึ้นลง ไม่ว่ากับใครแม้เธอจะระดับไหน มันก็อยู่ที่เธอ รับมันได้ไหม ให้ชีวิตมีขึ้นลง ไม่เคยถอดใจแม้มันจะระดับไหน รับให้ได้ทุกทางเมื่อชีวิตมีขึ้นลง ไม่ว่ากับใครแม้เธอจะระดับไหน มันก็อยู่ที่เธอ รับมันได้ไหม
อีก 51 วัน จะเป็นไท

วาเลนไทน์ 2551